ข้อควรรู้ก่อนซื้อเครื่องเป่าแอลกอฮอล์
เครื่องเป่าแอลกอฮอล์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
เครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์แบบยืนยันผล (Evidential)
เครื่องวัดแอลกอฮอล์ประเภทนี้จะให้ผลตามมาตรฐานสากล มีความแม่นยำสูง จึงมักนำมาใช้ในการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่เป็นทางการ เพราะสามารถนำไปใช้ในการรับรองผลทางกฎหมายได้
เครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์แบบคัดกรองหรือแบบเบื้องต้น (Screening)
เครื่องวัดแอลกอฮอล์แบบคัดกรองจะเป็นการตรวจสอบในเบื้องต้น โดยค่าความแม่นยำจะขึ้นอยู่กับประเภทของเซ็นเซอร์ของเครื่องตรวจวัด หากว่าซื้อเครื่องวัดแอลกอฮอล์ประเภทนี้ไปใช้ จะไม่สามารถนำไปรับรองผลทางกฎหมายได้
รู้จักเซ็นเซอร์ตรวจจับสารแอลกอฮอล์
เซ็นเซอร์ชนิดไฟฟ้าเคมี (Electrochemical Cell)
เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่ใช้เซ็นเซอร์ชนิดไฟฟ้าเคมี จะให้ค่าความแม่นยำที่สูงสุด ไม่มีผลกระทบต่อสารระเหยอื่นๆ เช่น ลูกอม กาว หรือน้ำหอม ที่ทำให้ค่าตรวจวัดผิดไปจากความเป็นจริง
เซ็นเซอร์ชนิดสารกึ่งตัวนำ (Semi-Conductor)
เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่ใช้เซ็นเซอร์ชนิดสารกึ่งตัวนำ จะให้ค่าความแม่นยำที่ค่าวัดไม่เกิน 50Mg% และอาจมีผลกระทบต่อสารระเหยอื่นๆ เช่น ลูกอม กาว หรือน้ำหอม อาจจะทำให้ค่าตรวจวัดผิดไปจากความเป็นจริง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องเป่าแอลกอฮอล์
เครื่องเป่าแอลกอฮอล์แบบพกพา หรือเครื่องวัดแอลกอฮอล์ราคาถูกใช้ได้หรือไม่?
สำหรับราคาเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ที่มีราคาไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนใหญ่จะใช้ในการตรวจแบบไม่เป็นทางการเท่านั้น ไม่สามารถนำค่ามาพิจารณาอาการมึนเมาได้ ส่วนราคาเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ที่มีราคาตั้งแต่ 2,000-8,000 บาท จะเป็นเซ็นเซอร์แบบ Semi-Conductor ที่เหมาะกับการใช้งานส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่สามารถนำมาใช้รับรองผลทางกฎหมายได้ นอกจากนี้ลูกค้าจะต้องดูมาตรฐานการผลิตและการรับรองผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น CE Cert, IEC, US.DOT, FDA ถึงจะทำให้มั่นใจได้ในมาตรฐานการวัดที่เที่ยงตรงและแม่นยำ
*โปรดระวังใบรับรองลอกเลียนแบบ
ซื้อเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์มานานแล้วแต่วัดผลไม่ขึ้น
ให้ทำการทดสอบเบื้องต้นด้วยตนเองได้โดยใช้แอลกอฮอล์อ่อนๆ ดื่มเบียร์ประมาณ 20ML แล้วตามด้วยน้ำเปล่าในปริมาณเท่ากันทันที จากนั้นทำการวัดแอลกอฮอล์ด้วยการเป่าลมหายใจเข้าที่ตัวเครื่อง หากพบว่าค่าเป็นศูนย์ เซ็นเซอร์ที่ใช้วัดอาจเสื่อมสภาพ ลูกค้าสามารถส่งเครื่องเข้ามาตรวจสอบค่ามาตรฐานมายังบริษัทได้
วิธีใช้เครื่องเป่าแอลกอฮอล์อย่างถูกต้อง
เพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำที่สุด จะต้องเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์หลังจากดื่มไปแล้วอย่างน้อย 15-30 นาที เพราะเป็นระยะเวลาที่แอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดแล้ว ไม่แนะนำให้ทำการเป่าทันทีหลังจากดื่ม เพราะอาจทำให้ค่าที่ได้เกิดความคลาดเคลื่อน
สำหรับวิธีการใช้งานโดยทั่วไปแล้ว เมื่อเปิดเครื่องประมาณ 15 วินาทีจะมีสัญญาณเตือนให้เป่าได้ ให้เราอมที่หลอดเป่าเพื่อเป่าลมอย่าให้ขาดช่วง จนกว่าจะมีเสียงเตือนให้หยุดเป่า และให้รออ่านค่าที่ได้บนจอแสดงภาพ ซึ่งตามกฎหมายกำหนดว่าจะต้องไม่เกิน 50 Mg%
หน่วยการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ใช้อยู่เป็น %BAC
หากหน่วยวัดที่ได้ไม่เป็นค่า Mg% เราสามารถแปลงผลที่วัดได้ให้เป็นหน่วย Mg% ได้โดยการนำค่าที่วัดได้ไปคูณ 1,000 เช่น ค่าที่อ่านได้คือ 0.05%BAC นำมาคูณ 1,000 จะได้เท่ากับ 50Mg% หรือ 50Mg/100ML
ความแตกต่างเซ็นเซอร์ของเครื่องวัดแอลกอฮอล์
- แบบ Semi-Conductor
- ความละเอียดในการเป่าน้อยกว่าแบบไฟฟ้าเคมี
- สามารถเป่าได้ ประมาณ 500 ครั้ง
- จะต้องเปลี่ยนเซ็นเซอร์ทุก 6 เดือน
- แบบไฟฟ้าเคมี (Electrochemical Cell)
- ความละเอียดในการเป่าสูง
- สามารถเลือกรูปแบบการเป่าได้ แบบคัดกรอง และแบบตรวจวัดละเอียด
- จำนวนการเป่ามีมากกว่า 1,000 ครั้ง
- จะต้องส่งสอบเทียบทุก 6 เดือน
เครื่องเป่าแอลกอฮอล์สามารถใช้งานได้กี่ครั้งต่อวัน?
จำนวนการใช้งานของเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกซื้อ โดยส่วนใหญ่จะมีระบุอยู่ในสเปคสินค้าของแต่ละรุ่น